top of page
  • รูปภาพนักเขียนYou-Dee Organization

How Social Media Effects Teenagers’ Mental Health - ผลกระทบของโซเชียลมีเดียต่อสุขภาพจิตของวัยรุ่น

อัปเดตเมื่อ 7 ก.พ. 2565



คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าในปัจจุบันสื่อโซเชียลมีเดียได้กลายเป็นส่วนสำคัญในชีวิตประจำวันของเราทุกคนไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram, Twitter, YouTube ฯลฯ หากจะกล่าวว่าทั้งหมดนี้ได้กลายมาเป็น “ปัจจัยที่ 5” ของชีวิตเราก็คงไม่ผิดนัก แทบจะกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้วที่เรามักจะใช้เวลาว่างไปกับการนั่งเลื่อนฟีด แน่นอนว่าโซเชียลมีเดียมีประโยชน์มากมาย ทั้งเป็นแหล่งความบันเทิงที่ดีและสื่อความรู้ที่ยอดเยี่ยม แต่การใช้งานที่มากเกินไปก็ส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตเช่นกัน โดยเฉพาะในหมู่วัยรุ่นที่มีสถิติการใช้งานแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียมากกว่าวัยอื่น ๆ แต่ทั้งในเด็ก ผู้ใหญ่ ไปจนถึงผู้สูงอายุต่างก็ได้รับผลกระทบอย่างมากเช่นเดียวกัน


งานวิจัยหลายชิ้นได้พิสูจน์แล้วว่าการใช้สื่อโซเชียลมีเดียมีผลกระทบอย่างมากต่อสุขภาพจิตของผู้ใช้งาน ทั้งทำให้เกิดความเครียด ความวิตกกังวล ความเหงา ภาวะซึมเศร้า หรือแม้กระทั่งคิดทำร้ายตัวเองหรือฆ่าตัวตาย


ผลกระทบของโซเชียลมีเดียต่อสุขภาพจิตมีดังนี้

  • Cyberbullying แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะแพลตฟอร์มแบบนิรนาม (Anonymous) กลายเป็นแหล่งกระจายข่าวลือหรือเรื่องที่ทำให้ผู้อื่นเสียหาย ซึ่งทำให้ผู้เสียหายเกิดแผลใจ

  • ทำให้รู้สึกไม่มั่นใจในตัวเอง ถึงแม้เราจะรู้ว่ารูปภาพต่าง ๆ ที่ถูกโพสต์นั้นถูกปรับแต่งมาแล้ว แต่ก็ยังสามารถทำให้เรารู้สึกไม่พอใจกับชีวิตตัวเองที่เป็นอยู่ หรือไม่พอใจกับรูปลักษณ์ของตัวเองได้ เนื่องจากเราเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับผู้อื่นอยู่ตลอด และยังนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าและความวิตกกังวลอีกด้วย

  • นำไปสู่ความรู้สึกอิจฉาคนอื่น เมื่อเราเปรียบเทียบตัวเองกับคนในโลกโซเชียลฯ อยู่ตลอดเวลา ความรู้สึกว่าตัวเองไม่ดีพออาจทำให้เราเกิดความอิจฉาและคอยจ้องจับผิดหรือ Cyberbully ผู้อื่นได้

  • เสียเวลาชีวิต เมื่อเอาแต่กังวลว่าจะพลาดเรื่องสำคัญ จนต้องคอยเช็คหน้าจอมือถืออยู่ตลอดเวลา อย่างที่หลายคนอาจเคยได้ยินประโยคเปรียบเปรยที่ว่า “โซเชียลฯ ดูดวิญญาณ” ซึ่งทำให้เราเสียเวลามหาศาลไปกับการนั่งเลื่อนฟีด และอาจทำให้ไม่มีสมาธิกับงาน นอนดึก หรือเสียโอกาสทำกิจกรรมอื่น ๆ ที่ดีต่อสุขภาพและหน้าที่การงานมากกว่า

  • ทำให้รู้สึกเหงามากกว่าเดิม หลายคนคิดว่าการใช้โซเชียลฯ นั้นช่วยบรรเทาความเหงา แต่ความจริงแล้วกลับตรงข้าม ซึ่งในปัจจุบันได้รับการพิสูจน์แล้วว่าการใช้งานโซเชียลฯ มีแต่จะทำให้ความรู้สึกเหงาและโดดเดี่ยวเพิ่มขึ้น

  • ทำให้เราละเลยปัญหาที่แท้จริง หลายคนใช้โซเชียลฯ เป็นหลุมหลบภัย เมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่ตึงเครียด เบื่อหน่าย วิตกกังวล รู้สึกเหงา หรือประสบปัญหาในชีวิต คนส่วนใหญ่ก็มักจะหาทางออกโดยการหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและเปิดสื่อโซเชียลฯ ซึ่งอาจทำให้รู้สึกดีขึ้นชั่วขณะ แต่ความจริงแล้วกลับเป็นการเบี่ยงเบนความสนใจของเราจากจากปัญหาที่แท้จริง ทำให้ไม่ได้แก้ปัญหาที่ต้นเหตุ และปล่อยให้มันสะสมเพิ่มพูนขึ้นเรื่อย ๆ


แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าเรากำลังใช้โซเชียลฯ ในวิธีที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพอยู่หรือเปล่า ?


สัญญาณที่บ่งบอกว่าเราอาจ “เสพติดโซเชียลฯ (Social media addiction)” เข้าแล้ว

  • ใช้เวลากับสื่อโซเชียลฯ มากกว่ากับเพื่อนจริง ๆ

  • ต้องคอยอัปเดตตัวเองในโซเชียลฯ อยู่ตลอดเวลา

  • มักเปรียบเทียบตัวเองกับคนบนโลกโซเชียลฯ

  • กังวลว่าคนอื่นโพสต์ในเชิงลบเกี่ยวกับเรา

  • เสียสมาธิระหว่างเรียนหรือทำงาน

  • ไม่มีเวลาย้อนมองดูตัวเอง ว่าเราเป็นใคร คิดยังไง อยากทำอะไร

  • มีปัญหาการนอนหลับ นอนหลับยาก นอนดึกตื่นสาย เข้านอนไม่เป็นเวลา

  • รู้สึกวิตกกังวล ซึมเศร้า หรือโดดเดี่ยวเมื่อไม่ได้เปิดโซเชียลมีเดีย


ถ้าคุณใช้เวลากับสื่อโซเชียลฯ เป็นระยะเวลานานและเริ่มมีอาการดังที่กล่าวมานี้ บางทีอาจถึงเวลาที่คุณต้องพิจารณาพฤติกรรมการใช้สื่อโซเชียลฯ ของคุณดูใหม่ และปรับสมดุลเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น


วิธีจัดการกับภาวะติดโซเชียลฯ และวิธีใช้งานสื่อโซเชียลฯ เพื่อสุขภาพจิตที่ดี

  • เลือกติดตามคนที่มีทัศนคติเชิงบวกและสร้างแรงบันดาลใจให้กับเรา

  • เลิกติดตามคนที่ Toxic

  • ปิดเสียงแจ้งเตือน

  • ยอมรับความหลากหลายและความแตกต่าง

  • ทำ Digital Detox กำหนดเวลาใช้งานโซเชียลมีเดียในแต่ละวัน

  • ไม่นำโทรศัพท์มือถือหรือแท็ปเล็ตเข้าห้องนอน


อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าโซเชียลมีเดียจะส่งผลเสียต่อสุขภาพในหลายแง่มุม แต่โซเชียลมีเดียก็มีข้อดีมากมาย แม้จะไม่สามารถทดแทนปฏิสัมพันธ์ในชีวิตจริงได้ แต่ก็ทำให้เราสามารถติดต่อกับใคร ที่ไหน เมื่อไรก็ได้ และทำให้เราสามารถหาเพื่อนใหม่ที่มีความสนใจเหมือนกันได้ นอกจากนี้ยังเป็นพื้นที่ให้ได้ปลดปล่อยความเป็นตัวเอง และเป็นแหล่งหาข้อมูลความรู้ที่ยอดเยี่ยม


ดังนั้นคุณไม่จำเป็นที่จะต้องตัดโซเชียลมีเดียออกไปจากชีวิต ทุกคนอยู่กับมันได้ เพียงแต่จำกัดเวลาและใช้งานในปริมาณที่เหมาะสม รวมถึงคัดเลือกสื่อดี ๆ ที่ทำให้เรามีความสุขจะดีที่สุด


เขียนโดย ธนนันท์ ศรีบุญเรือง

ออกแบบโดย เกวลิน ศรีสุนนท์


แหล่งอ้างอิง:


Walton, A. G. (2017, October 3). 6 ways social media affects our mental health. Forbes. Retrieved November 19, 2021, from https://www.forbes.com/sites/alicegwalton/2017/06/30/a-run-down-of-social-medias-effects-on-our-mental-health/.


Robinson, L. and Smith, M., M.A. (2021, October). Social Media and Mental Health. Retrieved November 23 , 2021, from


Supamangmee, S. (2021, October 26). Social Media VS. Teen สารพัดข้อถกเถียงเรื่องโซเชียลมีเดียกับสุขภาพจิตวัยรุ่น. Retrieved November 23, 2021, from

ดู 8,806 ครั้ง0 ความคิดเห็น

โพสต์ล่าสุด

ดูทั้งหมด
bottom of page